นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรีคอนซูเมอร์ และสายงานดิจิทัล แบงกิ้ง ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเข้าซื้อกิจการทั้งหมดของบริษัท Hattha Kaksekar Limited (HKL) ซึ่งเป็นสถาบันการเงินประเภทนันแบงก์รายใหญ่ในประเทศกัมพูชา โดยเข้าซื้อหุ้น 100% ของธนาคารในรอบนี้ เพื่อเป็นไปตามแผนการขยายธุรกิจในกลุ่ม CLMV ซึ่งประกอบด้วย ประเทศ ลาว กัมพูชา เวียดนาม และพม่า ปัจจุบันธนาคารสามารถเข้าไปบุกเบิกตลาดได้ 2 ใน 4 ประเทศเป้าหมายที่วางไว้เรียบร้อยแล้ว คือ ลาว และกัมพูชา หลังจากนี้ธนาคารจะบุกใน 2 ประเทศที่เหลือ โดยช่วงต้นเดือน ตุลาคม 2559 ทีมงานธนาคารจะเข้าไปทำการศึกษาอย่างจริงจังในประเทศพม่า โดยเป้าหมาย 4 ประเทศแล้วเสร็จภายในปี 2561
ทั้งนี้แผนงานการปล่อยสินเชื่อนาโน ไฟแนนซ์ภายในประเทศ หลังจากได้วางแผนการปล่อยสินเชื่อดังกล่าวในช่วงปีที่ผ่านมา ล่าสุด เริ่มนำร่องปล่อยสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์แล้ว 2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้ ใน 3 พื้นที่ ได้แก่ กรุงเทพฯ เชียงใหม่ และหาดใหญ่ โซนพื้นที่ย่านการค้าและแหล่งท่องเที่ยว เช่น เจเจมอลล์ เจาะกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเป็นของธุรกิจและมีหน้าร้านของตัวเองหรือมีสัญญาเช่าที่ชัดเจน โดยบริษัทจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 26 กันยายนนี้ โดยในปีแรกบริษัทตั้งเป้าวงเงินปล่อยสินเชื่อ 300 ล้านบาท แบ่งเป็นพื้นที่ กรุงเทพฯ 150 ล้านบาท และภาคเหนือ 75 ล้านบาท และภาคใต้ 75 ล้านบาท คาดว่า จะช่วยเหลือมีลูกค้าใหม่เข้าระบบได้ประมาณ 200 คน จากกลุ่มตัวอย่างสำรวจ 3 พื้นที่ประมาณ 400 คน สำหรับความต้องการวงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 50,000 บาท และชำระค่างวดรายเดือน คิดอัตราดอกเบี้ยสูงสุด 36% แต่หากเป็นลูกค้าที่กู้ระยะยาว ช่วง 6-12 เดือนแล้วมีพฤติกรรมดี จะลดอัตราดอกเบี้ย เป็นขั้นบันได และถ้าลูกค้าดีที่ชำระค่างวดครบตามกำหนดแล้วกลับมากู้ใหม่จะลดดอกเบี้ยให้เช่นกัน คิดดอกเบี้ยเฉลี่ยอยู่ 28-36%
"ช่วงแรกตั้งทีมงานสินเชื่อเดิมเข้ามาหาและดูแลลูกค้าเป็นหลัก อีกด้านหนึ่งจะ โปรโมทสินเชื่อนาโนฯ ผ่านบูธเฟิร์สช้อยส์หรือ ดีเลอร์ด้วย หากจบเฟสแรกครบ 300 ล้านบาท จะประเมินแผนงาน หากตอบรับดีจะเริ่มเดินหน้า เฟสสองต่อไป แม้ว่าคู่แข่งในตลาดที่ออกมาทำสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ ก่อนหน้านี้ยังไม่ประสบความสำเร็จและพบว่ามีความเสี่ยงสูงต่อการขาดทุนก็ตาม" นายฐากร กล่าว
ขณะเดียวกัน นางสาวสิตาพัชร์ นิโรจน์ธนรัฐ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT ผู้ให้บริการ ทางการเงินประเภท Non-Bank ซึ่งมีกลุ่ม เป้าหมายเป็นผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เปิดเผยว่า บริษัทได้ให้บริการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการ (Project Backup Finance) เพื่อสนับสนุนสัญญาซื้อขายรถขุดไฮดรอลิกตีนตะขาบ ขนาดไม่น้อยกว่า 120 แรงม้า จำนวน 14 คัน สัญญา กรมทางหลวง มูลค่าสัญญากว่า 55 ล้านบาท โดย บริษัทได้ให้สินเชื่อ Project Backup Finance หรือสินเชื่อเพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าวเป็นวงเงิน 45 ล้านบาท ระยะเวลา 60 วัน และให้สินเชื่อรับซื้อหนี้การค้า หรือ Factoring เพื่อรองรับหลังการดำเนินโครงการดังกล่าวเสร็จสิ้นด้วย
ทั้งนี้ที่ผ่านมา LIT ได้ให้สินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยให้สินเชื่อครบวงจรหลากหลายประเภทเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า SMEs ที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานภาครัฐหรือบริษัท เอกชนขนาดใหญ่มาแล้วหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการสินเชื่อเช่าเหมาเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงในมหาวิทยาลัย โครงการสินเชื่อเพื่อเปิด L/C เพื่อซื้อขาย มิเตอร์ไฟฟ้า (Watt hour Meters) จำนวนกว่า 200,000 เครื่อง ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ทั้งนี้ที่ผ่านมา LIT ได้ให้สินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ ขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยให้สินเชื่อครบวงจรหลากหลายประเภทเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า SMEs ที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานภาครัฐหรือบริษัท เอกชนขนาดใหญ่มาแล้วหลากหลายโครงการ อาทิ โครงการสินเชื่อเช่าเหมาเครื่องคอมพิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ต่อพ่วงในมหาวิทยาลัย โครงการสินเชื่อเพื่อเปิด L/C เพื่อซื้อขาย มิเตอร์ไฟฟ้า (Watt hour Meters) จำนวนกว่า 200,000 เครื่อง ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
ข่าววันที่ : 15 กันยายน 2559

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น